ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในการเลี้ยงดูลูกน้อย ที่จะพัฒนาไปเป็นความผูกพันแน่นแฟ้น (Attachment) ช่วยให้ลูกมีความมั่นคงทางอารมณ์ รู้สึกปลอดภัย
รู้ว่า “แม่” คือพื้นที่ปลอดภัยของลูก เมื่อลูกน้อยมีความมั่นคงทางอารมณ์ เขาจะเป็นเด็กร่าเริง แจ่มใส มองโลกในแง่ดี สมองส่วน EF จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ กล้าคิดริเริ่มและลงมือทำ (Initialing) เชื่อฟังและเคารพกติกา เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ๆ จะควบคุมอารมณ์ได้ดี (Emotional Control) และปรับตัวได้ง่าย มีทักษะยืดหยุ่นทางความคิด (Shift Cognitive Flexibility) ดีกว่าเด็กที่อารมณ์ไม่มั่นคง
มีผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า เด็กที่ชอบหัวเราะ อารมณ์ดีจะมีแนวโน้มโตขึ้นเป็นคนที่มีระดับ IQ สูง รู้จักแสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมและมีความสุขกว่าเด็กที่เคร่งเครียด หรือซึมเศร้า ไม่ยิ้มแย้ม เนื่องจากการหัวเราะช่วยเพิ่มสารออกซิโตซินและเอนดอร์ฟินในสมองของเด็กให้มากขึ้น ทำให้เซลล์ประสาทแตกแขนงเชื่อมโยงกันได้ดี สมองจึงพัฒนาได้เร็ว ช่วยเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ
วิธีเลี้ยงลูกให้มีความมั่นคงทางอารมณ์
- พ่อแม่มีอารมณ์ที่มั่นคง เป็นแบบอย่างให้ลูกเห็น เพราะลูกจะซึมซับพฤติกรรมและอารมณ์จากสิ่งที่เห็น ให้พยายามเตือนตัวเองตลอดเวลา หมั่นดูแลอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ
- ตอบสนองความต้องการของลูกอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ในแต่ละช่วงวัย เป็นการให้คุณค่าและสร้างตัวตนของลูก
- เข้าใจพื้นฐานอารมณ์ของลูก การที่พ่อแม่มีเวลาได้ใกล้ชิดและเลี้ยงลูกเอง จะทำให้เข้าใจพื้นฐานลักษณะนิสัยของลูกว่าเป็นอย่างไร และรู้วิธีที่จะช่วยให้ลูกจัดการอารมณ์ตัวเองได้อย่างเหมาะสม
- ให้เวลาลูกในการปรับตัว ไม่เร่งรีบจนเกินไป ควรฝึกให้ลูกได้ใช้เวลากับสิ่งแวดล้อมรอบตัว มีเวลาในการทำกิจกรรมที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบหรือกดดันให้ทำให้ได้ไปทุกเรื่อง
- สร้างวินัยเชิงบวก หรือการสร้างแรงจูงใจให้ลูกมีพฤติกรรมที่เหมาะสม แทนการลงโทษ ดุว่า ตวาดเสียงดัง หรือใช้คำพูดรุนแรง เมื่อลูกทำผิด
- ฝึกลูกให้รู้จักจัดการความสัมพันธ์ระหว่างกัน หากมีลูกหลายคน ไม่ควรสอนให้พี่ต้องยอมน้องตลอดเวลา แต่ควรเปิดโอกาสให้พี่น้องได้จัดการปัญหา ทะเลาะ คืนดี ประนีประนอมกันก่อน ทำให้เขาได้เรียนรู้และผูกพันกันมากขึ้น
- อ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง เป็นเครื่องมือง่าย ๆ ช่วยสอนเด็ก โดยเลือกนิทานเด็กหรือหนังสือเด็กที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการช่วยพัฒนา EQ อ่านนิทานก่อนนอนทำง่ายและทำได้ทันที ทุกบ้าน ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15 นาที เด็กวัย 1-6 ปีจะชอบให้พ่อแม่เล่านิทานให้ฟังมาก และชอบทำตามตัวละครในนิทานที่เขาชอบ พ่อแม่จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยสอนลูกได้ นอกจากช่วยเสริมพัฒนาการ พัฒนา EQ แล้ว ยังเป็นนิทาน EF ช่วยพัฒนาทักษะสมองที่ดี และการอ่านนิทานช่วงก่อนนอน เป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะพ่อแม่ไม่ยุ่งกับงานแล้ว ลูกก็เล่นใช้แรงมาทั้งวันแล้ว บรรยากาศเงียบ สงบ เหมาะมากที่จะอ่านหนังสือ กำหนดเวลาไว้เลย เช่น สองทุ่มของทุกวัน ทำทุกวันจะช่วย ฝึกวินัยการนอนให้ลูกไปด้วยในตัว
การเลี้ยงลูกให้มี EQ ดี มีความฉลาดทางอารมณ์ สิ่งสำคัญคือ พ่อแม่ต้องทำหน้าที่เป็นแบบอย่างในชีวิตจริงให้ลูกเห็นและทำตามด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี มีทัศนคติที่ดี ให้เป็นนิสัยที่ดีติดตัวลูกไปจนโต
บทความแนะนำ : 5 พฤติกรรมของลูก ที่บ่งบอกว่าเป็น เด็กอัจฉริยะ